ผลบุญของแม่บัวใส
แม่บัวใสได้ถึงแก่กรรมในปี พ.ศ.2522
พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโปอยากทราบว่านางไปอยู่ที่ใด . ..
วันหนึ่งท่านได้กำหนดจิต ไปดูที่ปราสาทจตุรมุขรูปทรงเจดีย์....
ซึ่งท่านเคยมาครั้งหนึ่ง เมื่อสร้างเจดีย์ที่วัดอรัญวิเวก บ้านปง เสร็จ ..
ซึ่งท่านเคยมาครั้งหนึ่ง เมื่อสร้างเจดีย์ที่วัดอรัญวิเวก บ้านปง เสร็จ ..
ครั้งนี้ท่านได้เห็นบริเวณโดยรอบของปราสาท มีหญ้าอ่อนนุ่ม . เหมือนหญ้านวลน้อยสีทอง ขึ้นเต็มไปหมด มีแถวกุหลาบปลูกเรียงรายเป็นแถวสุดสายตา...
ปรากฏมีเทพธิดานางหนึ่งเดินลงมาจากปราสาทสีทอง (แต่งกายด้วยชุดสีเขียว เสื้อแขนทรงกระบอก ,ห่มผ้าสไบสีเขียวอ่อน ) และเข้ามากราบพระอาจารย์เปลี่ยน..
พร้อมกับถามว่ามาเยี่ยมแม่หรือ พระอาจารย์เปลี่ยนได้ให้ เทพธิดานั้นนิรมิตกายเป็นแม่บัวใสเมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ให้ดู
จึงแน่ใจว่าไม่ผิดตัว ท่านจึงต่อว่าแม่บัวใสที่ไม่ลงไปเยี่ยม ที่วัดเลย นางเทพธิดาจึงบอกว่า บนสวรรค์สุขสบายมาก
จึงไม่อยากไปไหนบนสวรรค์มีความสุขสบายเกินกว่าที่เคยคาดไว้
ทำให้เพลิดเพลินเจริญใจจนลืมตัว ลืมนึกถึงเรื่องราวยุ่งยากนานานัปการที่เคยประสบบนโลกมนุษย์อย่างน่าแปลก
ถ้าลูกไม่ขึ้นมาให้เจอบนสวรรค์แม่คงยังไม่นึกถึงแน่นอน ...
เมื่อยังมีชีวิตอยู่เวลาไปวัดทุกวันพระแม่บัวใสจะมีดอกไม้ถือติดมือไปจำนวนมาก
และจะจัดหาน้ำปานะเลี้ยงพระเณรด้วย..
นอกจากนั้นจะพิถีพิถันในเรื่องความสะอาด และความเป็นระเบียบ สวยงาม จะปัดกวาดดูแลวัด และสถานที่ ให้เรียบร้อยตลอดเวลา
แม่บัวใสเป็นผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี ถ้ามีคนจนไปวัดจะแจกเงิน และเรียกให้รับประทานข้าวปลาอาหารร่วมกัน ..
เมื่อนางจะเดินทางไปทำบุญที่ใดจะมีผู้มาขอร่วมทำบุญด้วยเสมอ
บางคนเห็นนางกำลังเตรียมของเพื่อทำบุญก็จะมอบเงินไว้ให้ร่วมทำบุญ
บางคนถึงกับอธิษฐาน...ขอเกิดเป็นลูกบัวใสเลยก็มี ..
แม่บัวจันทร์ น้องของแม่บัวใส ถือศีลเฉพาะวันพระ โดยถืออุโบสถศีล เมื่อสิ้นชีวิตไป ได้ไปสถิตย์อยู่ชั้นสวรรค์ชั้นตาวติงสา ...
แม่บัวคำน้องอีกคนหนึ่ง ได้ใส่บาตรและอุปัฏฐากหลวงปู่แหวนเป็นประจำ จนหลวงปู่แหวนไปอยู่ดอยแม่ปั๋ง... ..แม่บัวคำยังตามไปอุปัฏฐาก
แต่เป็นผู้ละความโกรธไ ม่ได้ ใจคอหงุดหงิดตลอดเวลา ความโกรธทำให้จิตตกต่ำ จึงไปได้ไม่ดีนักเมื่อสิ้นชีวิตจึงอยู่ชั้นตาวติงสา..
พระอาจารย์เปลี่ยนเล่าว่า ปกติเวลาเทพบุตร เทพธิดา จะจุติลงมาเป็นมนุษย์ ทุกองค์มีความตั้งใจจะลงมาสร้างคุณงามความดี เพื่อยกภูมิ ของตนให้สูงขึ้น
แต่พอมาเป็น...มนุษย์จะลืม และหลงไปใน อบายมุขในโลก..
ไม่สร้างกรรมดีตามที่ตั้งใจ ..ซ้ำกลับต้องตกต่ำลงกว่าที่ตนเคยเสวยสุขอยู่เสียอีก
บนสวรรค์เมืองแมนแดนสวรรค์ท่านว่าสุขทุกขณะจิต ..
ส่วนผู้เสวยบาปต้องลงนรก ลำพังความเดือดร้อนจากไฟนรกก็แสนสาหัส.
ไม่ต้องถูกลงทัณฑ์ ทรมาน ชาวนรกก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูกกันอยู่แล้ว ...
ในนรกท่านก็ว่าเป็นทุกข์ไม่มีเวลาสุข ทุกขณะจิตเช่นกัน
อุปมาคนเอาค้อนทุบพราดโดนหัวแม่โป้ง ตนเองก็เต็มรัก ทุกทรมานสาหัสจนลืมญาติทีเดียว เอวัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น