วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2558

อานิสงส์การถวายผ้าไตร



อานิสงส์การถวายผ้าไตร

อานิสงส์ถวายผ้าไตรจีวร พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
"ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลใดได้เคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนา ถ้าไปเกิดเป็นผู้หญิงจะมีเครื่องลดามหาปสาธน์อย่างนางวิสาขา"

คำว่า "เครื่องลดามหาปสาธน์" นี่ ด้ายไม่มี มีแต่ทองคำ เป็นทองคำล้วน แขกเขาคลุมตั้งแต่ศีรษะยันข้อเท้า และข้างบนก็มีนกยูงประดับเพชร ๒๐ ทะนาน และแก้ว ๗ ประการอีกต่างหาก ราคาเวลานั้นทั้งหมด ๑๖ โกฏิ อย่าลืมนะญาติโยมทั้งหลาย ที่ถวายผ้าไตรจีวรเป็นอย่างนั้น ถ้าเกิดเป็นคน ถ้าเกิดเป็นเทวดาเป็นนางฟ้าก็มีเครื่องแต่งตัวสวยมาก ทีนี้ถ้าผู้ชายก็จะไม่มีเครื่องลดามหาปสาธน์ แต่ทว่าเมื่อเวลาบรรลุอรหันต์ก็ดี หรือต้องการบวชในพระพุทธศาสนาก็ดี ถ้าพบพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจะทรงเรียก "เอหิภิกขุ" ซึ่งแปลว่า "เจ้าจงเป็นภิกษุมาเถิด" เพียงเท่านี้ ผ้าไตรจีวรสำเร็จด้วยฤทธิ์จะลอยมาจากอากาศสวมร่างกายทันที นี่ผู้ชาย

อานิสงส์ไวยาวัจกร

คำว่า "ไวยาวัจกร" หมายความว่า คนที่ช่วยงานในการกุศลทุกอย่าง จะเป็นงานกฐินนี่ก็ดี จะเป็นงานอย่างอื่นก็ตาม เวลาตายจากความเป็นคน เฉพาะ "ไวยาวัจกร" นะ จะมีอานิสงส์ตํ่ากว่าเณรที่มีศีลบริสุทธิ์นิดหน่อย คือว่าเณรที่มีศีลบริสุทธิ์ตายจากความเป็นคนไปเกิดเป็นเทวดา จะมีบริวารหนื่งหมื่นคน ลงมาก็ "ไวยาวัจกร" เมื่อตายจากความเป็นคนจะเกิดเป็นเทวดา เป็นนางฟ้าก็ตาม จะมีบริวารแปดพันคน นี่เฉพาะไวยาวัจกรนะ!

อานิสงส์ของการช่วยขนของสังฆทาน

เออ...นี่พูดถึงเรื่องพวกช่วยขนของ เกี่ยวกับ "อธิษฐานบารมี" อย่าง พระเจ้าจัณทปัชโชต ใช่ไหม พระเจ้าจัณทปัชโชตินี่ท่านช่วยเขาหยิบข้าวไปให้ใส่บาตรพระเที่ยวเดียวนะ วิ่งมาดูแล้วก็เอาไป เพียงเท่านี้ ท่านอธิษฐาน
"ในฐานะที่ข้าพเจ้าวิ่งไปวิ่งมาด้วยความเร็ว เกิดไปชาติหน้าขอให้มีพาหนะเร็วที่สุด..."
และต่อมาก็มีช้างเดินได้วันละ ๑๒๐ โยชน์ มีม้าวิ่งได้วันละ ๘๐ โยชน์ ไปเป็นเทวดามาก่อนนะ และแถมลงมาจากเทวดาเป็นพระราชาด้วยนะ นั่นเที่ยวเดียวนะ และไอ้พวกนี้กี่เที่ยวล่ะ! ไอ้บุญนี่สั่งสมทีละน้อยๆ ไม่ใช่เรื่องเล็ก เรื่องใหญ่มาก...
ทีนี้อานิสงส์ที่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทถวายเงิน กับถวายสังฆทานในงานกฐิน เงินนี่ทำบุญได้ ๒ อย่าง คืออาตมาจะใช้เป็น ๒ อย่าง คือ เป็น "สังฆทาน" ในงานกฐินด้วย และก็จะเป็น "วิหารทาน" ด้วย ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ให้บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทได้อานิสงส์มากๆ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
"การถวายทานแด่พระอรหันต์ ๑๐๐ ครั้ง มีผลไม่เท่าถวายทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า ๑ ครั้ง
ถวายทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้ง จะมีผลไม่เท่าถวายทานแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑ ครั้ง
ถวายทานแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้ง มีผลไม่เท่าถวายสังฆทาน ๑ ครั้ง"
ทีนี้สำหรับกฐินเป็นสังฆทานพิเศษ มีอานิสงส์มากกว่าสังฆทานธรรมดามาก เพราะมีเวลาจำกัด จะถวายได้เฉพาะตั้งแต่แรมคํ่า ๑ เดือน ๑๑ ถึงกลางเดือน ๑๒ ฉะนั้นจึงมีอานิสงส์มากกว่าสังฆทานธรรมดา
พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "ถวายสังฆทาน ๑๐๐ ครั้ง มีผลไม่เท่ากับถวายวิหารทาน ๑ ครั้ง" นี่ก็หมายความว่าญาติโยมพุทธบริษัททุกคนนี่จะได้บุญทั้ง ๒ อย่าง คือ:-
๑. อานิสงส์กฐิน เป็นสังฆทานใหญ่
และประการที่ ๒ เป็นวิหารทาน เงินของท่านจะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นอานิสงส์กฐิน อีกส่วนหนึ่งจะนำไปทำการก่อสร้างเพื่อเป็นวิหารทาน คนที่ถวายสังฆทานนี่ถ้าตายจากความเป็นคน จะมีวิมานสวยมากใหญ่มาก ถ้าเกิดมาเป็นคนใหม่ ก็จะมีบ้านใหญ่ บ้านสวยรวยทรัพย์ โดยเฉพาะสังฆทาน มีบ้านใหญ่เฉพาะวิหารทาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น