.“ซื่อสัตย์ “ ถูก หนุ่มน้อยนามว่า “ฉลาด” ทิ้งลงทะเล ซื่อสัตย์พยายามว่ายน้ำ
จนมาถึงเกาะแห่งหนึ่ง เมื่อขึ้นฝั่งได้ ซื่อสัตย์ ก็นอนพักอยู่บนหาดทราย มัน
พยายามคิดหาวิธีที่จะกลับขึ้นฝั่ง สิ่งที่ซื่อสัตย์หวังก็คือจะมีเรือของใครผ่าน
มาทางนี้บ้าง
อยู่ๆ ซื่อสัตย์ก็ได้ยินเสียงเพลงแววมาแต่ไกล มันรีบลุกขึ้นและมองไปยังต้น
เสียงนั้น มีเรือลำหนึ่งกำลังมุ่งมายังเกาะนี้ บนเรือลำนั้นมีธงผืนเล็กโบก
สะบัดอยู่ บนธงนั้นเขียนคำว่า “ความสุข” ที่แท้เป็นเรือของความสุขนั่นเอง
ซื่อสัตย์จึงตะโกนเรียกความสุข
“ความสุข ความสุข ผมคือซื่อสัตย์ คุณช่วยพาผมขึ้นฝั่งได้ไหม?”
เมื่อความสุขได้ยิน ก็พูดกับซื่อสัตย์ว่า
“ไม่ได้ๆ หากผมพาคุณขึ้นมาด้วยผมจะหมดสุข คุณดูสิ ผู้คนมากมายใน
สังคมยุคนี้ที่พูดความจริงแล้วกลับไม่มีความสุข ขอโทษนะซื่อสัตย์ ผมรับ
คุณขึ้นมาไม่ได้!”
พูดเสร็จ ความสุขก็จากไป
ผ่านไปสักครู่หนึ่ง “ตำแหน่ง” ก็ผ่านมา
ซื่อสัตย์ตะโกนเรียกตำแหน่ง
“ตำแหน่ง ตำแหน่ง ผมคือซื่อสัตย์ ผมขออาศัยเรือของคุณขึ้นฝั่งได้ไหม?”
ตำแหน่งพอได้ยิน ก็รีบหันหัวเรือให้ห่างออกไป จากนั้นก็หันมาพูดกับซื่อสัตย์
ว่า
“ไม่ได้ ไม่ได้ ซื่อสัตย์คุณจะขึ้นมาอยู่กับผมไม่ได้ คุณรู้ไหมตำแหน่งที่ผม
ได้มานั้นมันยากเย็นสักเพียงใด หากผมพาคุณมาอยู่ด้วยเดี๋ยวผมก็ซวยนะสิ
เดี๋ยวผมก็จะสูญเสียตำแหน่ง ยังไงผมไม่ขออยู่ร่วมกับคุณ”
ซื่อสัตย์น้ำตาคลอเบ้า มองตำแหน่งที่รีบออกเรือจากไปอย่างสิ้นหวังรู้สึกสับ
สนในตนเองเป็นอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่มันทำได้ก็เพียงแค่รอ รอ และก็รอเท่านั้น
อยู่ๆท่วงทำนองที่ไม่ค่อยจะเข้ากันนักก็แว่วดังขึ้นมา เรือลำหนึ่่งบรรทุก “แข่ง
ขัน” เป็นจำนวนมากผ่านมา ซื่อสัตย์จึงตะโกนเรียก
“แข่งขัน แข่งขัน ผมขอขึ้นเรือของคุณได้ไหม?”
“คุณเป็นใคร คุณมีประโยชน์แค่ไหนกับพวกเรา?”
แข่งขันตะโกนถามมา
ซื่อสัตย์ไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะเกรงว่าจะพลาดโอกาสเหมือนทุกครั้งที่
ผ่านมา แต่ซื่อสัตย์ก็คือซื่อสัตย์
“ผมคือซื่อสัตย์.....”
“ห๊า! คุณคือซื่อสัตย์ หากพวกเรามีคุณอยู่ด้วย เราจะแข่งขันเอาชนะอะไร
กับใครที่ไหนได้ ”
พูดเสร็จ ก็หันหัวเรือจากไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ซื่อสัตย์กำลังสิ้นหวังนั่งคอตก อยู่ๆก็มีน้ำเสียงอันเมตตาดังขึ้นว่า
“ลูกจ๋า ขึ้นเรือเถิด!”
เมื่อซื่อสัตย์เงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นผู้เฒ่าผมขาวโพลนคนหนึ่งยืนอยู่บนเรือ
“ฉันคือผู้เฒ่าแห่งกาลเวลา”
“ทำไมท่านต้องมาช่วยผมครับ?”
ซื่อสัตย์ถามออกไปด้วยความสงสัย
“มีแต่กาลเวลาเท่านั้นที่รู้ว่าซื่อสัตย์มีค่ามากเพียงใด”
ผู้เฒ่าแห่งกาลเวลาพูดออกไปด้วยรอยยิ้ม
บนทางกลับคืนฝั่ง ผู้เฒ่าแห่งกาลเวลาได้พูดกับความสุข ตำแหน่ง แข่งขันที่
ต่างก็เรือล่มอยู่กลางทะเลว่า
“เจ้าทั้งหลายจงจำไว้ หากปราศจากซื่อสัตย์แล้ว ความสุขจะอยู่ได้ไม่นาน
ตำแหน่งที่ได้มาก็เป็นตำแหน่งจอมปลอม การแข่งขันก็มีแต่จะล้มเหลวไม่เป็น
ท่า”
จนมาถึงเกาะแห่งหนึ่ง เมื่อขึ้นฝั่งได้ ซื่อสัตย์ ก็นอนพักอยู่บนหาดทราย มัน
พยายามคิดหาวิธีที่จะกลับขึ้นฝั่ง สิ่งที่ซื่อสัตย์หวังก็คือจะมีเรือของใครผ่าน
มาทางนี้บ้าง
อยู่ๆ ซื่อสัตย์ก็ได้ยินเสียงเพลงแววมาแต่ไกล มันรีบลุกขึ้นและมองไปยังต้น
เสียงนั้น มีเรือลำหนึ่งกำลังมุ่งมายังเกาะนี้ บนเรือลำนั้นมีธงผืนเล็กโบก
สะบัดอยู่ บนธงนั้นเขียนคำว่า “ความสุข” ที่แท้เป็นเรือของความสุขนั่นเอง
ซื่อสัตย์จึงตะโกนเรียกความสุข
“ความสุข ความสุข ผมคือซื่อสัตย์ คุณช่วยพาผมขึ้นฝั่งได้ไหม?”
เมื่อความสุขได้ยิน ก็พูดกับซื่อสัตย์ว่า
“ไม่ได้ๆ หากผมพาคุณขึ้นมาด้วยผมจะหมดสุข คุณดูสิ ผู้คนมากมายใน
สังคมยุคนี้ที่พูดความจริงแล้วกลับไม่มีความสุข ขอโทษนะซื่อสัตย์ ผมรับ
คุณขึ้นมาไม่ได้!”
พูดเสร็จ ความสุขก็จากไป
ผ่านไปสักครู่หนึ่ง “ตำแหน่ง” ก็ผ่านมา
ซื่อสัตย์ตะโกนเรียกตำแหน่ง
“ตำแหน่ง ตำแหน่ง ผมคือซื่อสัตย์ ผมขออาศัยเรือของคุณขึ้นฝั่งได้ไหม?”
ตำแหน่งพอได้ยิน ก็รีบหันหัวเรือให้ห่างออกไป จากนั้นก็หันมาพูดกับซื่อสัตย์
ว่า
“ไม่ได้ ไม่ได้ ซื่อสัตย์คุณจะขึ้นมาอยู่กับผมไม่ได้ คุณรู้ไหมตำแหน่งที่ผม
ได้มานั้นมันยากเย็นสักเพียงใด หากผมพาคุณมาอยู่ด้วยเดี๋ยวผมก็ซวยนะสิ
เดี๋ยวผมก็จะสูญเสียตำแหน่ง ยังไงผมไม่ขออยู่ร่วมกับคุณ”
ซื่อสัตย์น้ำตาคลอเบ้า มองตำแหน่งที่รีบออกเรือจากไปอย่างสิ้นหวังรู้สึกสับ
สนในตนเองเป็นอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่มันทำได้ก็เพียงแค่รอ รอ และก็รอเท่านั้น
อยู่ๆท่วงทำนองที่ไม่ค่อยจะเข้ากันนักก็แว่วดังขึ้นมา เรือลำหนึ่่งบรรทุก “แข่ง
ขัน” เป็นจำนวนมากผ่านมา ซื่อสัตย์จึงตะโกนเรียก
“แข่งขัน แข่งขัน ผมขอขึ้นเรือของคุณได้ไหม?”
“คุณเป็นใคร คุณมีประโยชน์แค่ไหนกับพวกเรา?”
แข่งขันตะโกนถามมา
ซื่อสัตย์ไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะเกรงว่าจะพลาดโอกาสเหมือนทุกครั้งที่
ผ่านมา แต่ซื่อสัตย์ก็คือซื่อสัตย์
“ผมคือซื่อสัตย์.....”
“ห๊า! คุณคือซื่อสัตย์ หากพวกเรามีคุณอยู่ด้วย เราจะแข่งขันเอาชนะอะไร
กับใครที่ไหนได้ ”
พูดเสร็จ ก็หันหัวเรือจากไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ซื่อสัตย์กำลังสิ้นหวังนั่งคอตก อยู่ๆก็มีน้ำเสียงอันเมตตาดังขึ้นว่า
“ลูกจ๋า ขึ้นเรือเถิด!”
เมื่อซื่อสัตย์เงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นผู้เฒ่าผมขาวโพลนคนหนึ่งยืนอยู่บนเรือ
“ฉันคือผู้เฒ่าแห่งกาลเวลา”
“ทำไมท่านต้องมาช่วยผมครับ?”
ซื่อสัตย์ถามออกไปด้วยความสงสัย
“มีแต่กาลเวลาเท่านั้นที่รู้ว่าซื่อสัตย์มีค่ามากเพียงใด”
ผู้เฒ่าแห่งกาลเวลาพูดออกไปด้วยรอยยิ้ม
บนทางกลับคืนฝั่ง ผู้เฒ่าแห่งกาลเวลาได้พูดกับความสุข ตำแหน่ง แข่งขันที่
ต่างก็เรือล่มอยู่กลางทะเลว่า
“เจ้าทั้งหลายจงจำไว้ หากปราศจากซื่อสัตย์แล้ว ความสุขจะอยู่ได้ไม่นาน
ตำแหน่งที่ได้มาก็เป็นตำแหน่งจอมปลอม การแข่งขันก็มีแต่จะล้มเหลวไม่เป็น
ท่า”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น